ใช่ค่ะ ข่าวนี้เป็นประเด็นใหญ่และมีผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจของลาว การเปิดเผยโครงการรณรงค์ “เซฟเงินกีบ” ที่ไม่ประสบความสำเร็จและทำให้ราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้นสร้างความกังวลในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะในบริบทที่หลายคนพยายามจะใช้เงินบาทซึ่งผิดกฎหมายในลาว แต่กลับเป็นที่นิยมเนื่องจากค่าเงินกีบที่อ่อนค่าลงอย่างมาก.
การปลดตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งสปปลาวคุณบุญเหลือ สินทวรวงศ์ เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการเศรษฐกิจของประเทศ การแต่งตั้งนางวัฒนาดา ลาลอย ขึ้นเป็นผู้ว่าการคนใหม่ก็เป็นการมอบภารกิจสำคัญในการเพิ่มเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นงานที่ท้าทายอย่างยิ่ง
มูลค่าหนี้สาธารณะที่สูงถึง 108% ของ GDP และการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศทำให้ลาวต้องการเงินทุนสำรองในรูปแบบของ US ดอลลาร์อย่างมาก การที่ค่าเงินกีบอ่อนค่าลงทำให้ต้องใช้เงินมากขึ้นในการชำระหนี้ต่างประเทศ.
มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการบริหารจัดการเศรษฐกิจของลาวอยู่ภายใต้การควบคุมของพรรคประชาชนปฏิวัติลาวซึ่งแสดงถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ที่อาจรุนแรงขึ้น นักเศรษฐศาสตร์บางคนเสนอว่าลาวจำเป็นต้องหาทางเจรจากับจีนซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดในการเลื่อนการชำระหนี้และทำข้อตกลงสวอปต่อไปเพื่อรักษาทุนสำรองระหว่างประเทศไม่ให้รั่วไหลออกไป
สื่อใหญ่จากญี่ปุ่นอย่างนิเคอิเอเชียก็จับตามองสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด โดยมีการเสนอทางออกทางเศรษฐกิจเพื่อแก้ไขปัญหานี้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ความยากลำบากในการบริหารจัดการหนี้และเศรษฐกิจอาจส่งผลให้เกิดความไม่พอใจและวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชนและนักวิเคราะห์มากยิ่งขึ้น.