สถานการณ์ใน สปป. ลาวเกี่ยวกับการแบนเงินบาทและความพยายามในการลดการนำเข้าสินค้าไทยเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อและพยุงค่าเงินกีบกำลังเป็นประเด็นที่มีความซับซ้อนและส่งผลกระทบหลากหลายด้าน โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตของประชาชนและเศรษฐกิจ
ราคาน้ำมันใน สปป. ลาว
- ดีเซล: 21,240 กีบต่อลิตร
- แกสโซลีน 91: 2,160 กีบต่อลิตร
- แกสโซลีน 95: 3,100 กีบต่อลิตร.
น้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปจากไทยยังคงเป็นสินค้าส่งออกสำคัญไปยังลาว โดยปี 2565 มีมูลค่าการส่งออกน้ำมันเพิ่มขึ้น 92.75% จากปีที่แล้ว และในปี 2566 ก็มีการนำเข้าน้ำมันเพิ่มขึ้น 8.73% จากปีที่ผ่านมา
การนำเข้าน้ำมันจากจีน
ในช่วงปี 2566 ลาวได้เริ่มนำเข้าน้ำมันเบนซินจากจีน โดยมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างบริษัทจีนและรัฐวิสาหกิจของลาว มีการขนส่งน้ำมันเบนซินครั้งแรกไปยังลาวที่เมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา
ความพยายามลดการใช้เงินบาทไทย
รัฐบาลลาวพยายามรณรงค์ให้ใช้เงินกีบและลดการใช้เงินบาทไทย ซึ่งยังไม่ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมในทางปฏิบัติ เนื่องจากค่าเงินกีบอ่อนค่าจากปัญหาโครงสร้างภายในประเทศ นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์ไม่รับเงินตราต่างประเทศในการซื้อสินค้าในลาว.
ความคิดเห็นจากประชาชนและนักวิชาการ
- ข้อขัดแย้ง: หลายคนแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับความขัดแย้งในการรณรงค์ของรัฐบาล เช่น การที่ชายแดนไทย-ลาวยังคงใช้เงินบาทและดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขาย หรือการที่ร้านค้าในเขตเศรษฐกิจของจีนในลาวยังรับเฉพาะเงินหยวน
- การแก้ไขปัญหา: ประชาชนบางส่วนเสนอว่ารัฐบาลควรมีการกระทำอย่างจริงจังและเป็นผู้นำในการรณรงค์ใช้เงินกีบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มมูลค่าให้กับเงินกีบ.
ปัญหาเงินเฟ้อ
เงินเฟ้อในลาวเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยในปี 2565 เงินเฟ้อสูงถึง 30% ก่อนลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 20% กว่าๆ ในปัจจุบัน รัฐบาลพยายามควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตราและลดการนำเข้าสินค้าต่างประเทศ แต่ก็ยังมีปัญหาในการแก้ไขปัญหาโครงสร้างภายใน
การที่ลาวพยายามลดการนำเข้าสินค้าไทยและหันไปพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นการแก้ปัญหาที่ต้องเผชิญความท้าทายหลายด้าน ทั้งในเรื่องของคุณภาพสินค้า การจัดการทรัพยากรและความเชื่อมั่นของประชาชน การแก้ปัญหาในระยะยาวยังคงต้องการการวางแผนและการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพจากรัฐบาลลาว.
