คนลาวฝันไปแสนไกล สามเหลี่ยมทองคำเกมส์แบบนี้

ความร่วมมือระหว่างตำรวจลาวและจีนในการจัดการกับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ในสามเหลี่ยมทองคำ

ในช่วงนี้ มีข่าวใหญ่ในลาวเกี่ยวกับการร่วมมือระหว่างตำรวจลาวและจีนในการจัดการกับกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ที่ดำเนินการอย่างผิดกฎหมายภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศลาว การร่วมมือครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความสงบสุขและความปลอดภัยให้กับสังคมในพื้นที่นี้

จากการตรวจตราที่ดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่พบว่ามีชาวจีนและผู้ที่อพยพเข้ามาในพื้นที่แบบผิดกฎหมายถึง 20 คน สร้างความสงสัยและความคิดเห็นหลากหลายจากประชาชนลาว หลายคนตั้งคำถามว่าคนเหล่านี้เข้ามาได้อย่างไร และพวกเขาได้อาศัยอยู่ที่ใด.

ในทางกลับกัน มีประชาชนลาวหลายคนแสดงความชื่นชมในการปฏิบัติหน้าที่ของภาครัฐ โดยระบุว่าการกวาดล้างครั้งนี้เป็นการสร้างความปลอดภัยให้กับพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ อย่างไรก็ตาม ก็มีบางคอมเมนต์ที่แสดงความกังวลและไม่พอใจต่อการตรวจตราในพื้นที่ เนื่องจากมีข้อสงสัยว่าผู้มีอิทธิพลบางคนในลาวอาจได้รับผลประโยชน์จากการกระทำที่ผิดกฎหมายเหล่านี้

บางคอมเมนต์ได้กล่าวถึงบทบาทของประเทศไทยในการตัดสายอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ที่ส่งผลให้ลาวต้องมีการตรวจตราอย่างเข้มงวดมากขึ้น พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตว่าเศรษฐกิจในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำส่วนใหญ่นั้นมาจากสถานบันเทิง นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยว่าการกวาดล้างครั้งนี้อาจไม่สามารถขจัดกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ทั้งหมดได้ เนื่องจากจำนวนบริษัทที่ดำเนินการในพื้นที่มีมากมาย.

รายงานจากสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยถึงความกังวลว่าอาจมีกลุ่มคอลเซ็นเตอร์จากประเทศเพื่อนบ้านย้ายเข้ามาดำเนินการในลาวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังจากกระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ เนื่องจากมีการหลอกลวงให้ชาวเกาหลีใต้ไปทำงานในพื้นที่นี้และถูกยึดหนังสือเดินทาง

ในขณะเดียวกัน คนลาวในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำได้แสดงความคิดเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวปัจจุบันไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลลาวอย่างแท้จริง แต่ถูกควบคุมโดยกลุ่มที่มีอิทธิพลจากต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่าการตรวจตราในพื้นที่อื่นของลาวจะไม่เกิดขึ้นหากไม่มีการตรวจสอบจากต่างชาติ

หลายคอมเมนต์ยังกล่าวถึงปัญหาเศรษฐกิจในลาวว่าเกิดจากความไม่สามารถในการดำเนินธุรกิจของคนลาวเอง ซึ่งตรงข้ามกับคนจีนที่สามารถทำธุรกิจได้อย่างเสรีในลาว สร้างความไม่พอใจและความกังวลให้กับประชาชนในท้องถิ่นที่รู้สึกว่าขาดสิทธิ์ในการควบคุมและปกป้องประเทศของตนเอง.

ในท้ายที่สุด หลายคนในลาวยังคงกังวลว่าหากไม่มีความร่วมมือระหว่างประเทศหรือไม่มีการตรวจตราจากภายนอก อาจจะทำให้ปัญหาในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำและพื้นที่อื่นๆ ในลาวไม่ได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพ.